วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ระบบสืบพันธุ์

ะบบสืบพันธุ์

หน้าที่ของระบบสืบพันธุ์

ระบบสืบพันธุ์เป็นระบบที่มีหน้าที่ใน การรักษาเผ่าพันธุ์ ต่างจากระบบอื่น ๆ ที่มีหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพ เช่น ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่ายปัสสาวะ เป็นต้น โดยการรักษาเผ่าพันธุ์ดังกล่าว อวัยวะในระบบสืบพันธุ์มีหน้าที่ ดังต่อไปนี้

สืบพันธุ์

 สร้างเซลล์สืบพันธุ์

 ผลิตฮอร์โมน

ระบบสืบพันธุ์ชาย

เป็น ระบบที่ประกอบด้วยกลุ่มอวัยวะที่ทำหน้าที่สร้างอสุจิและนำอสุจิไปผสมกับไข่ ที่รังไข่สร้างขึ้น เพื่อเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนและทารกต่อไป นอกจากนั้นยังผลิตฮอร์โมนเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของลักษณะประจำเพศขั้น ที่ 2 ของเพศชาย (secondary sex characteristics) อีกด้วย

อวัยวะในระบบ

อวัยวะในระบบอยู่ภายในอุ้งเชิงกราน (pelvic cavity) และมีบางส่วนที่อยู่นอกอุ้งเชิงกราน อวัยวะในระบบ ได้แก่...

 อัณฑะ (testes)

 หลอดนำอสุจิ (vas deferens)

 ถุงน้ำอสุจิ (seminal vesicles)

 ต่อมลูกหมาก (prostate gland)

 ต่อมคาวเปอร์ (Cowper’s gland)

 องคชาติ (penis)

Testes

 เป็นต่อมคู่ (exocrine glands)

 รูปร่างคล้ายไข่แบน ๆ

 ขนาด ยาว 5 ซ.ม. f 3 ซ.ม.

 หนัก 10-15 กรัม

เริ่มเจริญในช่องท้องใกล้ ๆ ไต และเคลื่อนลงอยู่ในถุงหุ้มอัณฑะ (scrotum) ที่ทำด้วย ในช่วง 2 เดือนก่อนคลอด(หรือช่วงแรกหลังคลอด) มีอุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกายประมาณ 3°C ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างอสุจิ

โครงสร้างของ Testes

 มีปลอกเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่มีความเหนียว หุ้ม 2 ชั้น

 ภายในมี lobule (testicular lobules) 250-  400กลีบ

 ใน lobule มีหลอดสร้างอสุจิ (seminiferous   tubules)

 ระหว่างหลอดผลิตอสุจิมี interstitial cells   (Leydig cell) ทำหน้าที่สร้าง testosterone   hormone

เอพิดิไดมิส (Epididymis)

 เป็นกลุ่มท่อที่ขดไปมาโอบโค้งติดกับด้านหลัง  ของอัณฑะ

 ทำหน้าที่เก็บอสุจิและอสุจิจะพัฒนาจนสามารถ  ผสมกับไข่ได้ จากนั้นจะถูกส่งเข้าไปในหลอดนำ  อสุจิ

 ยาว 6 เมตร

 ผนังท่อทำด้วยเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อเรียบ

ถุงหุ้มอัณฑะ (Scrotum)

 เป็น ถุงผิวหนังยื่นออกมาจากส่วนล่างของผนัง  หน้าท้อง ส่วนกลางของถุงอัณฑะมีสันนูนคล้าย  รอยเย็บ เรียกว่า scrotal raphe ซึ่งจะทำให้ผนัง  แทรกเข้าไปภายในแยกออกเป็น 2 ถุง บรรจุ   testes และ epididymis

 ห้อยติดอยู่กับกล้ามเนื้อ cremaster จึงหดตัว  หรือ  หย่อนตัวได้ตามอุณหภูมิของร่างกาย

หลอดนำอสุจิ (Vas Deferens)

 เป็นท่อที่รับอสุจิจาก epididymis

 ยาว 1.5 ฟุต

 ผนังทำด้วยกล้ามเนื้อเรียบ

 ทำหน้าที่เก็บพักอสุจิและเป็นท่อส่งต่ออสุจิไปยัง   ejaculatory duct ด้วยวิธี peristalsis

ถุงน้ำอสุจิ  (Seminal Vesicles)

 เป็นถุงคู่

 ที่ตั้ง : ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ-หน้า rectum

 ตอน ล่างของถุงทั้งสองข้างเปิดเข้าท่อสั้น ๆ ที่  เรียกว่า ejaculatory duct ที่ยาว 2 ซ.ม. และ  แทงทะลุเข้าทางด้านหลังของต่อมลูกหมาก   เข้าไปเชื่อมต่อกับท่อปัสสาวะที่อยู่ในต่อม  ลูกหมาก

 ทำหน้าที่ผลิต seminal fluid หล่อเลี้ยงอสุจิ

ต่อมลูกหมาก (Prostate Gland)

 เป็นต่อมเดี่ยวหุ้มรอบหลอดปัสสาวะตอนบน  อยู่หลัง symphysis pubis และหน้า rectum

 รูปร่าง : คล้ายลูกหมาก

 ขนาด : f 3 ซม. หนัก 20 กรัม

 ทำหน้าที่ผลิตของเหลวคล้ายนมใส ๆ ช่วย  กระตุ้นให้อสุจิเคลื่อนที่ได้

ต่อมคาวเปอร์ (Cowper’s Gland or

Bulbourethral Glands)

ต่อมขนาดเล็กเท่าเมล็ดถั่ว 2 ต่อม ตั้งอยู่ 2 ข้างของท่อปัสสาวะ แต่อยู่ต่ำกว่าต่อมลูกหมาก ทำหน้าที่ผลิตของเหลวที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เพื่อลดความเป็นกรดของท่อปัสสาวะในผู้ชายและช่องคลอดของผู้หญิง

องคชาติ (Penis)

ทำหน้าที่นำน้ำอสุจิผ่านช่องคลอดเข้าไปผสมกับไข่

องคชาติ ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้

• ปลาย (glans of penis)

• ลำตัว (shaft)

• โคน (root)

Shaft ของ Penis

ลำตัวขององคชาติ (shaft) ประกอบด้วยเยื่อเยื่อแท่งรูปทรงกระบอก 3 แท่งมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ ในช่องว่างมีหลอดเลือดดำเลี้ยงอยู่เป็นจำนวนมาก และแต่ละแท่งมีหลอดเลือดแดงเลี้ยงอยู่ตรงกลางแท่ง 1 เส้น แท่งด้านหน้ามีหลอดปัสสาวะผ่ากลาง และเปิดออกที่ glans of penis ที่ปลายองคชาติมีผิวหนังหุ้มอยู่ เรียกว่า prepuce

น้ำอสุจิ (Semen)

เป็นของเหลวข้นสีขาว ประกอบด้วย :

 ตัวอสุจิ

 

 ของเหลวจาก seminal vesicles,    prostate gland และ Cowper’s gland

การหลั่งแต่ละครั้ง มีปริมาณ 2-5 ม.ล. และมีตัวอสุจิอยู่ประมาณ 20-250 ล้านตัว

อสุจิ (Spermatozoa)

โครงสร้าง : ประกอบด้วย 3 ส่วน

 ส่วนหัว (head)

 ส่วนตัว (body)

 ส่วนหาง (tail)

อายุ : 48 ชั่วโมง

ระบบสืบพันธุ์หญิง

เป็น ระบบที่ประกอบด้วยกลุ่มอวัยวะที่ทำหน้าที่สร้างไข่และเป็นที่อยู่ของทารกใน ครรภ์ เพื่อการเจริญเติบโตและคลอดต่อไป นอกจากนั้นยังผลิตฮอร์โมนเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของลักษณะประจำเพศขั้น ที่ 2 ของเพศหญิง (secondary sex characteristics) และการเตรียมความพร้อมของมดลูกเพื่อรับการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้ว ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของร่างกายให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์อีก ด้วย

อวัยวะในระบบ

อวัยวะในระบบอยู่ภายในอุ้งเชิงกราน (pelvic cavity) และมีบางส่วนที่อยู่นอกอุ้งเชิงกราน อวัยวะในระบบแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่...

 ภายใน (internal organs)

 ภายนอก (external organs)

Internal Organs

 รังไข่ (ovaries)

 ท่อรังไข่ (fallopian tubes)

 มดลูก (uterus)

 ช่องคลอด (vagina)

External Organs

 เนินหัวเหน่า(mons pubis)

 แคมใหญ่(labia majora)

 แคมเล็ก(labia minora)

 clitoris

 vestibule

 ฝีเย็บ(peritoneum)

S เต้านม(breast)

Ovaries

รังไข่เป็นต่อมคู่ (exocrine gland) เช่นเดียวกับ อัณฑะของผู้ชาย

รูปร่าง   : คล้ายถั่วลิสง

ขนาด   : 3 ซ.ม. x 1.5 ซ.ม. x 1.5 ซ.ม. หนัก 3 กรัม

ที่ตั้ง   : อยู่ที่ตอนบนของอุ้งเชิงกราน ใต้ท่อรังไข่  มีเอ็น ovarian ligament ยึดติดกับมดลูก

หน้าที่   : สร้างไข่ และผลิต-หลั่งฮอร์โมนเพศ

ท่อรังไข่ (Fallopian Tube or Oviduct)

ปีก มดลูก หรือท่อรังไข่ เป็นท่อกลวงยาวประมาณ 10 ซ.ม. ยื่นจากมดลูกไปจรดรังไข่ ปลายด้านที่ชิดรังไข่เป็นแฉก เรียก fimbriae ผนังของปีกมดลูกทำด้วยกล้ามเนื้อเรียบ และผิวชั้นในสุดมีขน (cilia) ที่ช่วยการเคลื่อนที่ของไข่ และขนที่ fimbriae จะช่วยพัดโบกไข่ที่หลุดออกจากรังไข่ให้เข้าไปในท่อรังไข่

มดลูก (Uterus or womb  )

ที่ตั้ง :   ในอุ้งเชิงกราน ระหว่างด้านหลังของ  กระเพาะปัสสาวะ กับ rectum

รูปร่าง : คล้ายผลสาลี่

ขนาด :   ยาว 7 ซ.ม. ส่วนที่กว้างที่สุด 5 ซ.ม. หนา   2.5 ซ.ม.

ช่องคลอด (Vagina)

เป็น ท่อกล้ามเนื้อกลวงที่ต่อกับปากมดลูก อยู่ระหว่างทวารหนักกับท่อปัสสาวะ ยาว 10 ซ.ม. ช่องกลวงบุด้วย mucous membrane มีลักษณะเป็นรอยย่นตามขวางเรียก rugae ภายในช่องคลอดมีสภาพเป็นกรด ที่รูเปิดมีแผ่นเยื่อ hymen ขวางอยู่เป็นบางส่วน เมือกในช่องคลอดเป็นเมือกที่ผลิตจากต่อมที่ปากมดลูก



 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น